บทละครนอกเรื่องไชยเชษฐ์

ตอน พระนารายณ์ธิเบศร์พบพ่อ

ตัวละคร

ตัวอย่างในเรื่อง

 

 

 



-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

 

 

 

บทสำหรับทำการ์ตูน

ตอน พระนารายณ์ธิเบศร์พบพ่อ

๏ เมื่อนั้น                                              พระนารายณ์ธิเบศร์ว่าอย่าพึงหมาย

ถึงจะแสบท้องให้แทบตาย                        ไม่มักง่ายกินอะไรของใครเป็น

มิใช่ฝีปีศาจที่เดินหน                                จะเสือกสนเที่ยวท่องกินของเซ่น

อย่าปลอบไปให้เลือดตากระเด็น               พลางเดินเที่ยวเล่นไม่เจรจา

ฯ ๔ คำ ฯ                      

                               

                               

๏ เมื่อนั้น                                              พระไชยเชษฐ์ความแสนเสน่หา

พยายามตามปลอบกุมารา                        อนิจจาปลื้มใจไม่ดูดี

ข้ามิใช่ชายพาล                                       ย่อมวงศ์วานกษัตริย์เรืองศรี

ครอบครองเหมันต์ธานี                            ไม่มีโอรสแลนัดดา

ไร้ทั้งสุริย์วงศ์พงศ์พันธุ์                             ที่จะผ่านเหมันต์ไปวันหน้า

เป็นบุตรข้าเถิดนะพ่ออา                          บิดาจะให้ครองพระเวียงชัย

ฯ ๖ คำ ฯ                      

                               

                               

๏ เมื่อนั้น                                              พระนารายณ์ธิเบศร์เคืองขัดอัชฌาสัย

พระกริ้วโกรธพลางว่าไป                           คนอะไรที่ไหนนี่หยาบช้า

อุเหม่ตาเฒ่านี้เจ้าเล่ห์                             เฉโกโว้เว้นักหนา

และเลียมเทียมเล่นเจรจา                         จะเป็นผัวแม่ข้าหรือว่าไร

ถึงตัวเราเล็กก็เหล็กเพชร                          ไม่ขามเข็ดพวกตาอย่าสงสัย

ปั้นเจ๋อเย่อหยิ่งเป็นพ้นไป                         ผู้ใหญ่แสนรู้มาสู้กัน

ว่าพลางทางขึ้นธนูศิลป์                            ฟ้าดินสะเทือนเลื่อนลั่น

พาดสายหมายล้างชีวัน                            ผาดแผลงไปพลันทันใด

ฯ ๘ คำ ฯ เชิดฉิ่ง

                                 

                               

                               

๏ ศรทรงองค์พระกุมาร                           กลายเป็นมาลาแลไสว

ไม่สังหารผลาญชีพชีวาลัย                        พระกุมารโกรธใจเป็นโกลี

ฯ ๒ คำ ฯ                      

                               

                               

๏ เมื่อนั้น                                              องค์พระไชยเชษฐ์เรืองศรี

เห็นศรกุมารชาญฤทธี                              กลับเป็นมาลีประหลาดใจ

วิปริตผิดเพศไม่เคยพบ                            พระปรารภพิศวงสงสัย

คิดพลางทางเสี่ยงศิลป์ชัย                         เดชะฤทธิไกรธนูนี้

แม้นกุมารมิใช่โอรสา                               ของนางสุวิญชามารศรี

ขอให้ศรสิทธิ์ฤทธี                                    สังหารกุมารนี้ให้วายปราณ

แม้นเป็นลูกน้อยนางโฉมฉาย                    ให้ศรกลายเป็นทิพย์อาหาร

เสี่ยงแล้วขึ้นศรรอนราญ                           แผลงไปให้ผลาญกุมารา

ฯ ๘ คำ ฯ เชิดฉิ่ง            

                               

                               

๏ ศรทรงองค์พระไชยเชษฐ์                      อาเพศไม่พานโอรสา

กลับเป็นเอมโอชโภชนา                           เกลื่อนกลาดดาษดาพนาวัน

ฯ ๒ คำ ฯ                      

                               

                               

๏ พระทิ้งศรทรงลงทันใด                          วิ่งไปกอดลูกแล้วรับขวัญ

พ่อลูกมาประสบพบกัน                            จะหักโหมโรมรันด้วยอันใด

ปลอบพลางทางเห็นธำมรงค์                     ที่กุมารสอดทรงก็จำได้

จึงว่าแหวนนี้ข้าให้ไว้                                กับโฉมงามทรามวัยสุวิญชา

มิเชื่อเราเจ้าถามพี่เลี้ยงดู                         เขารู้จักอยู่ถ้วนหน้า

แม้นเขาว่าข้ามิใช่บิดา                             จึงค่อยว่าล่อลวงเจ้าดวงใจ

ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา            

 

 

 

 

 

เนื้อเรื่อง

ท้าวอภัยนุราชเจ้าเมือง เวสาลี มีพระธิดาองค์หนึ่ง ประทานนามว่า นางจำปาทอง เพราะเมื่อนางร้องไห้จะมีดอกจำปาทองร่วงลงมา ครั้นนางจำปาทองเจริญวัยขึ้น นางได้นำไข่จระเข้าจากสระในสวนมาฟักจนเป็นตัวและเลี้ยงจระเข้ไว้ในวัง ครั้นจระเข้เติบใหญ่ขึ้น ก็ดุร้ายตามวิสัยของมัน มันเที่ยวไล่กัดชาวเมืองจนชาวเมืองเดือดร้อนไปทั่ว ท้าวอภัยนุราชทรงขัดเคืองจึงขับไล่นางจำปาทองออกจากเมืองเวสาลี นางแมวซึ่งเป็นแมวที่นางจำปาทองเลี้ยงไว้ได้ติดตามนางไปด้วย นางจำปางทองกับนางแมวเดินซัดเซพเนจรอยู่ในป่า ไปพบยักษ์ตนหนึ่งชื่อ นนทยักษ์ ซึ่งกำลังจะไปเฝ้าท้าวสิงหล นางตกใจกลัวจึงวิ่งหนีไปพบพระฤๅษี พระฤๅษีช่วยนางไว้ นางจำปาทองกับนางแมวจึงขออาศัยอยู่รับใช้พระฤๅษีในป่านั้น

 

ท้าวสิงหลเป็นยักษ์ครองเมืองสิงหล ไม่มีโอรสและธิดา คืนหนึ่งท้าวสิงหลบรรเทาหลับและทรงพระสุบินว่า มียักษ์ตนหนึ่งมาจากป่านำดอกจำปามาถวาย ดอกจำปามีสีเหลือเหมือนทองคำงามยิ่งนัก ท้าวสิงหลจึงทรงให้โหรทำนายพระสุบิน โหรทำนายว่าท้าวสิงหลจะได้พระธิดา วันนั้นนนทยักษ์เข้าเฝ้าท้าวสิงหลและทูลว่าพบหญิงสาวอาศัยอยู่กับพระฤๅษีที่ในป่า ท้าวสิงหลจึงเสด็จไปหาพระฤๅษี และขอนางจำปาทองมาเป็นธิดา ประทานนามว่านางสุวิญชา

 

ฝ่ายพระไชยเชษฐ์เป็นโอรสเจ้าเมืองเหมันต์ พระไชยเชษฐ์มีพระสนมอยู่ 7 คน วันหนึ่งพระองค์เสด็จประพาสป่า และหลงทางเข้าไปในสวนเมืองสิงหล นางสุวิญชา มาเที่ยวชมสวนพบพระไชยเชษฐ์จึงนำความทูลให้ท้าวสิงหลทราบ ท้าวสิงหลให้พระไชยเชษฐ์เข้าเฝ้า พระไชยเชษฐ์จึงทูลขอรับราชการในเมืองสิงหล ต่อมามีข้าศึกยกทัพมาตีเมืองสิงหล พระไชยเชษฐ์อาสาสู้ศึกจนชนะ ท้าวสิงหลจึงทรงยกนางสุวิญชาให้เป็นชายาพระไชยเชษฐ์ พระไชยเชษฐ์จึงพานางสุวิญชากลับเมืองเหมันต์

 

ฝ่ายนางสนมทั้ง 7 คนริษยานางสุวิญชาที่พระไชยเชษฐ์รักนางสุวิญชามากกว่า ครั้นนางสุวิญชาทรงครรภ์จวนจะถึงกำหนดคลอดนางสนมทั้ง 7 คน ก็ออกอุบายว่ามีช้างเผือกอยู่ในป่า พระไชยเชษฐ์จึงออกไปคล้องช้างเผือก ฝ่ายนางสุวิญชาคลอดลูกเป็นกุมารมีศรกับพระขรรค์ติดดัวมาด้วย นางสนมทั้ง 7 คน นำพระกุมารใส่บไปฝังที่ใต้ต้นไทรในป่า เทวดาประจำต้นไม้ช่วยชีวิตพระกุมารไว้ เมื่อพระไชยเชษฐ์เสด็จกลับจากคล้องช้างเผือก นางสนมทั้ง 7 คน ทูลว่านางสุวิญชาคลอดลูกเป็นท่อนไม้ พระไชยเชษฐ์จึงขับไล่นางสุวิญชาออกจากเมือง ขณะที่นางสุวิญชาคลอดกุมารนั้น นางแมวแอบเห็นการกระทำของนางสนมทั้ง 7 คน จึงพานางสุวิญชาไปขุดบที่ใต้ต้นไทร แล้วพาพระกุมารกลับไปเมืองสิงหล ท้าวสิงหลตั้งชื่อพระกุมารว่า พระนารายณ์ธิเบศร์

 

 

 

ต่อมาพระไชยเชษฐ์ทรงรู้ความจริงว่านางสุวิญชาถูกใส่ร้าย จึงออกติดตามนางสุวิญชาไปเมืองสิงหลและได้พบพระนารายณ์ธิเบศร์ ซึ่งกำลังประพาศป่ากับพระพี่เลี้ยง พระไชยเชษฐ์เห็นพระนารายณ์ธิเบศร์เป็นเด็กน่ารัก มีหน้าตาคล้ายพระองค์ก็มั่นใจว่าเป็นพระโอรส จึงเข้าไปขออุ้มและเอาขนมนมเนยให้ พระนารายณ์ธิเบศร์โกรธว่าเป็นคนแปลกหน้า จึงไม่ให้จับต้องและไม่ยอมเสวยขนม

 

พระนารายณ์ธิเบศร์โกรธพระไชยเชษฐ์ที่มาจับต้องตัวและจับหัวของพระพี่เลี้ยงของตนจึงใช้ศรธนูหมายจะฆ่าให้ตายแต่ธนูที่ยิงออกไปนั้นกลับกลายเป็นดอกไม้กระจายเติมพื้นดิน จึงทำให้พระไชยเชษฐ์เกิดความประหลายใจยิ่งนัก จึงอธิฐานจิตว่าถ้ากุมารองค์นี้เป็นลูกของตนที่เกิดกับนางสุวิญชาขอให้ธนูที่ยิงออกไปนั้นกลายเป็นอาหาร ทันใดนั้นพระไชยเชษฐ์ก็แผลงศรออกไป และศรธนุที่ยิงออกไปนั้นก็กลายเป็นอาหารมากมายเต็มพื้น จึงทำให้พระไชยเชษฐ์มั่นใจเป็นแน่แท้ว่าเป็นบุตรของตนจริง

พระไชยเชษฐ์ทรงไต่ถามพระนารายณ์ธิเบศร์เกี่ยวกับมารดา เพราะทรงจำแหวนที่พระนารายณ์ธิเบศร์สวมได้ พระนารายณ์ธิเบศร์บอกว่านางสุวิญชาเป็นแม่และท้าวสิงหลเป็นพ่อ พระไชยเชษฐ์จึงทรงเล่าเรื่องเดิมให้พระนารายณ์ธิเบศร์ฟัง ทั้งสองจึงทราบว่าเป็นพ่อลูกกัน พระนารายณ์ธิเบศร์พาพระไชยเชษฐ์เข้าเฝ้าท้าวสิงหล พระไชยเชษฐ์ขอโทษนางสุวิญชา พระนารายณ์ธิเบศร์ช่วยทูลนางสุวิญชาให้หายโกรธพ่อ นางสุวิญชายกโทษให้ พระไชยเชษฐ์ นางสุวิญชา และพระนารายณ์ธิเบศร์ สามคนพ่อแม่ลูกจึงอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข